image
Nichel Jhon 27 September 2021 Comments (09)

มีอนาคต

ศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ลิทัวเนีย เป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะขุนพลโต๊ะเล็ก ไทยที่ได้โอกาสลงโม่แข้งซึ่งก็ไม่ใช่หนแรกของทีมชาติไทยสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ แต่เป็นครั้งที่ 6 แล้วที่ไทยคว้าสิทธิ์รายการนี้ นอกเหนือจากผลการแข่งขันแล้วสิ่งหนึ่งที่นักเตะช้างศึกโต๊ะเล็กจะได้กลับมาคือประสบการณ์อันล้ำค่าที่จะหาจากไหนไม่ได้ ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนักจนทำให้ทุกอย่างไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

การได้ลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับโลกครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสทองที่ทุกคนต้องเร่งไขว่คว้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าลืมว่าชุดนี้เป็นส่วนผสมระหว่างใหม่กับเก่า โดยเฉพาะ 3 นักเตะตัวหลักจอมเก๋าอย่าง “เจ้าอาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง “เจ้าช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว “เจ้าเนิร์ส” จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ในวัย 33 ปี ที่สร้างชื่อมาตั้งแต่ฟุตซอลโลก 2012 กำลังใกล้ปลดระวางลงทุกที

แต่นักเตะหลายคนก็กำลังเริ่มฉายแววขึ้นมาแทนที่ ทั้ง “เจ้าเหม็ด” โมฮัมหมัด อุสมานมูซา กองหน้าลูกครึ่งไทย-กานา วัย 23 ปี, “รณชัย จูงวงศ์สุข” กองหลังร่างโย่งน้องใหม่ที่ช่วยมาสร้างเสริมสมดุล รวมไปถึง “อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ” ปีกตัวจี๊ดที่บาดเจ็บไปนาน รวมถึงคนอื่นๆ นักเตะดาวรุ่งหล่านี้ล้วนพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในอนาคต หากได้รับประสบการณ์ดีๆ จากเวทีโลกบ่อยๆ ความกล้าแกร่งก็จะตามมาด้วย ไม่ใช่เป็นลูกเมียน้อยแบบนี้

หากมองย้อนกลับไปเกือบ 20 ปีสมัยที่ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ เพิ่งจะก้าวเข้ามาสัมผัสกับเกมโต๊ะเล็กใหม่ๆ ตอนนั้นนักเตะหลายคนหลังจากหมดเวทีสนามใหญ่ก็จะมาปรับตัวเพื่อลงแข่งสนามเล็ก ช่วงนั้น “บิ๊กป๋อม” เรียกว่าลองผิดลองถูกมาตลอดหลายปีกว่าจะลงตัวได้นักเตะทีมโต๊ะเล็กเพียวๆ เป็นของตัวเองไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับสนามใหญ่ ด้วยความทุ่มเทอย่างหนักของ “บิ๊กป๋อม” ที่หลายคนยกให้เป็นพ่อมดฟุตซอลก็สามารถเริ่มสร้างชื่อให้กับวงการฟุตซอลไทยได้ตลอด จากทีมโนเนมก็ก้าวขึ้นมาอยู่เบอร์ 1 อาเซียน แถมเป็นที่ 3 เอเชีย รองจากอิหร่านเบอร์ 1 และญี่ปุ่น ที่ผลัดกันขึ้นลงเบอร์ 2 กับไทย

ที่สำคัญการตีตั๋วไปเวิลด์คัพครั้งแรกที่กัวเตมาลา ปี 2000 ได้สำเร็จถือเป็นอะไรสัญญาณที่ดีต่อวงการโต๊ะเล็กไทย เพราะหลังจากนั้นไทยก็สามารถคว้าโควตาไปร่วมตลอด แถมผลงานก็ถือว่าพัฒนาขยับดีขึ้นตามลำดับจากทีมโนเนมไปเตะแบบไม้ประดับสนาม ก็สามารถผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ถึง 2 ครั้งในปี 2012 และ 2016

วันนี้ทุกอย่างกำลังเริ่มต้นและเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพียงแต่ต้องมีการสนับสนุนที่จริงจังและต่อเนื่องเท่านั้น เชื่อว่าโอกาสที่ฟุตซอลจะก้าวไปถึงลึกๆ หรือ 4 ทีมสุดท้ายคงไม่ไกลเกินเอื้อม.