ผลกระทบต่อภาพรวมของ เศรษฐกิจทั่วโลก ที่ชะลอตัวลง จาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา เป็นการบ้านที่แต่ละประเทศจะต้องคิดหนัก สภาพแวดล้อมทั้งเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปทั้งในการบริโภคและการใช้ชีวิตประจำวัน
การกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเป็นเรื่องสำคัญในระดับต้นๆ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ต้องจับตาความเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาหลังจากเดือน ต.ค.ไปแล้วตามนโยบายการเปิดประเทศ
อย่างไรก็ตาม รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ มั่นใจว่าเศรษฐกิจต่อจากนี้ไปจะดีขึ้นเรื่อยๆ ถึงภาพรวมของธุรกิจและแรงงานจะมีหลายส่วนที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็จะมีบางส่วนที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น เช่นเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่การส่งออกและสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์จะเติบโตมีผลตอบแทนที่ดี
มีบางส่วนที่ได้รับประโยชน์จากรายได้ประจำ โดยเฉพาะข้าราชการประจำ ความหวังเดียวก็คือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. สามารถที่จะสร้างผลตอบแทนเงินออมมากน้อยแค่ไหน ท่ามกลางวิกฤติตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจัยเสี่ยงที่จะตามมาก็มีไม่น้อย
ที่ผ่านมา กบข. มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร มี ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ มาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยในช่วงครึ่งปีแรก ยังสามารถสร้างผลตอบแทนแผนหลัก ก่อนหักค่าใช้จ่าย สูงถึงร้อยละ 3.68 สินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดได้ 3 อันดับ ได้แก่ สินค้าโภคภัณฑ์ ร้อยละ 26.2 ตราสารทุนโลกพัฒนาแล้ว ร้อยละ 13.1 และตราสารทุนไทย ร้อยละ 9 สะท้อนถึงการวางกลยุทธ์ที่เน้นการลงทุนสินทรัพย์ที่เติบโต จากอานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในอเมริกา
ในช่วงไตรมาสที่ 2 การลงทุนทั่วโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทัั้งสหรัฐฯ ยุโรป มีเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบ มีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากด้านโครงสร้างพื้นฐานทำให้สินค้าในกลุ่มโภคภัณฑ์ได้รับอานิสงส์ไปด้วย สอดรับกับแผนการลงทุนของ กบข.ที่มีการกระจายทุนไปในตราสารทุนตลาดพัฒนาแล้ว
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ผู้บริหารยุคปัจจุบัน เป็นลูกหม้อของ กบข. มีประสบการณ์ทำงานกว่า 10 ปี จึงเข้าใจกลไกในการบริหาร กบข.เป็นอย่างดี เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการบริหารพอร์ตระดับ 1 ล้านล้าน ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจและวิกฤติโควิด-19 ภายใต้หลักการทำงาน In GPF We Trust ที่ต้องให้ความมั่นใจกับพนักงานในองค์กรและสมาชิก กบข. ด้วยความโปร่งใสและสื่อสารให้เข้าใจ
สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ประมาทกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะเกิดความผันผวนได้ตลอดเวลา แม้ช่วงครึ่งปีหลัง 2564 แนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัว แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองคือ แผนการบริหารจัดการสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แนวโน้มการประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเฟด ทิศทางของพันธบัตรระยะยาว จะส่งผลกระทบโดยตรงกับตลาดทุนและตลาดเงินทั่วโลก ดังนั้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดเงินตลาดทุน
จะต้องผ่านวิกฤติและเติบโตไปพร้อมๆกัน.
