
นายธนาพันธ์ ตันติสัตยกุล กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ UTE ภายใต้กลุ่มบริษัทเบญจจินดา กล่าวว่า บริษัทฯ มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เป็นส่วนหนึ่งสร้าง Smart City เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อเมืองและประชาชนในพื้นที่
โดยเสาอัจฉริยะ Lucky Pole มีจุดเด่นระบบฟังก์ชันการทำงานที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของเมืองแต่ละแห่ง ทำให้เมือง Smart City และประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
UTE มีรูปแบบการดำเนินการร่วมกับพันธมิตรด้านกลยุทธ์ หรือ Strategic Partner แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- กลุ่มแรก พันธมิตรเจ้าของที่ดินหรือเจ้าของพื้นที่ หรือ Landlord Partner เช่น เทศบาลนคร หรือพื้นที่ของเอกชน- กลุ่มแรก พันธมิตรเจ้าของที่ดินหรือเจ้าของพื้นที่ หรือ Landlord Partner เช่น เทศบาลนคร หรือพื้นที่ของเอกชน
- กลุ่มสอง พันธมิตรทางธุรกิจ หรือ Business Partner เช่น โมบาย โอเปอเรเตอร์
ในปี 64 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการติดตั้งเสาอัจฉริยะ Lucky Pole ไว้ไม่น้อยกว่า 4 เมือง ได้แก่ แหลมฉบัง ระยอง นครสวรรค์ ภูเก็ต
นายชัชวาลย์ สุภัคธนาการ ผู้อำนวยการฝ่าย Digital Solution & Development บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ UTE กล่าวว่า เทศบาลนครแหลมฉบัง มีเป้าหมายใช้เสาอัจฉริยะ Lucky Pole และแฟลต์ฟอร์มบริหารจัดการเมือง MaxiCity ในส่วนการใช้งาน จะมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเฝ้าระวังผ่านเสาอัจฉริยะ Lucky Pole ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ยังสามารถแจ้งเตือนสภาพอากาศให้กับประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างทันท่วงที และมุ่งเน้นให้นำข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ IoTs. ที่ติดตั้งบนเสาอัจฉริยะ
เทคโนโลยีดังกล่าว ได้รับการรับรองมาตรฐานถึง 2 รางวัล โดยเสาอัจฉริยะ Lucky Pole ได้รับรางวัล Product Innovation Awards 2021 ประเภทเทคโนโลยีกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร และโทรคมนาคมอัจฉริยะ และระบบแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Maxitask ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักของ MaxiCity ได้รับรางวัล 2019 Asia-Pacific Telecoms Digital Services Platform Growth Excellence Leadership Award จาก Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก