สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงาน บริษัท เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน ที่ต้องเผชิญกับวิกฤติหนี้สะสม หุ้นของบริษัทขยับขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์หลังเปิดตลาดในวันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีข่าวนักลงทุนรายใหญ่เตรียมเทขายหุ้นหมดหน้าตักก็ตาม ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็ง ขยับขึ้นเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์ โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเกิดขึ้นหลังจากที่เอเวอร์แกรนด์ประกาศพร้อมจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สกุลเงินหยวน 5.8 เปอร์เซ็นต์ ที่ครบกำหนดชำระในวันนี้ (23-09-64) โดยนาย ฮุย กา หยวน ประธานบริษัทได้แถลงว่า จะนำพา เอเวอร์แกรนด์ พ้นวิกฤติการเงินสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ส่วนก่อนหน้านี้หุ้นได้ตกลง 85 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ต้นปี
แต่ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามจัดการกับดอกเบี้ยเงินกู้สกุลเงินหยวน แต่เอเวอร์แกรนด์ ยังคงมีดอกเบี้ยของหนี้สกุลเงินดอลลาร์จำนวน 83.5 ล้านดอลลาร์ ที่มีกำหนดจ่ายในวันเดียวกัน ซึ่งบริษัทต้องจ่ายดอกเบี้ยดังกล่าวภายในระยะเวลา 30 วัน ทำให้นักลงทุนทั่วโลกยังคงจับตาว่า เอเวอร์แกรนด์ จะสามารถจ่ายเงินได้ทันเวลาหรือไม่
ทั้งนี้ บริษัทเอเวอร์แกรนด์ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจีน และมีโครงการก่อสร้างมากถึง 1,300 โครงการ ใน 280 เมือง แต่ต้องเผชิญกับวิกฤติหนี้สินสะสมจำนวน 305,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 10.2 ล้านล้านบาท ทำให้นักลงทุนทั่วโลกกังวลว่าบริษัทอาจผิดนัดชำระหนี้ เสี่ยงล้มละลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินเป็นวงกว้าง
