เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ยกระดับรักษาความปลอดภัย หลังเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดจากการประท้วงล็อกดาวน์ที่เดือดขึ้นทุกวัน สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย ยังคงรุนแรง โดยมียอดติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงต่อเนื่อง ขณะที่การประท้วงล็อกดาวน์ยังคงลุกลามติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ทำให้ทางการต้องสั่งยกระดับคุมเข้ม และกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รักษาความปลอดภัย โดยมีรายงานว่ากลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันที่ศาลากลาง และเดินขบวนทำให้ตำรวจต้องกระจายกำลังเพื่อควบคุมสถานการณ์ ป้องกันเหตุประท้วงรุนแรง โดยไม่มีการเปิดเผยถึงแผนในการควบคุมฝูงชนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมมาร่วมประท้วงล็อกดาวน์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามากกว่า 2,000 คน ได้สร้างความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือน และมีการปิดกั้นถนน นอกจากนี้ยังมีการปะทะกันจนมีตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย และมีผู้ประท้วงถูกจับกุมมากกว่า 60 คน โดยชนวนเหตุการประท้วงเกิดขึ้นหลังจากมีคำสั่งให้ปิดไซต์งานก่อสร้างเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยจนถึงตอนนี้เมืองเมลเบิร์นอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นเมืองที่มีการล็อกดาวน์มากที่สุดของประเทศ
โดยทางการออสเตรเลียเตรียมจะเปิดนครซิดนีย์ และเมลเบิร์น ทันทีที่สามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าจะสำเร็จในเดือนหน้า ขณะที่มาตรการคุมเข้มอื่นๆ จะผ่อนคลายลงอีกเมื่อสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุดออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 90,300 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสม 1,186 ศพ.
